เปลี่ยนเอเลี่ยนสปีชีส์ "ปลาหมอคางดำ" ให้เป็นปลาร้า
ปัจจุบันไทยผลิตปลาร้าสูงถึง 40,000 ตันต่อปี ตลาดกลุ่มอาเซียนและสหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา สร้างมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทต่อปี จากกรณีปัญหาปลาหมอสีคางดำระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรทุกภาคส่วนในประเทศไทย ในพื้นที่ชายฝั่งและลำน้ำธรรมชาติมากกว่า 13 จังหวัดทั่วประเทศ ทางกรมประมงจึงออกมาตรการรับมือสายพันธุ์รุกรานที่มีถิ่นกำเนิดจากแอฟริกานี้ เพื่อบรรเทาปัญหาให้กับชาวประมงและเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมี 5 แนวทางดังนี้
1. ควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการระบาด
2. ปล่อยปลาผู้ล่า เช่น ปลากะพงขาว และปลาอีกง เพื่อกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ
3. นำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ เช่น ทำปลาป่น ปลาร้า แปรรูปเป็นหลายเมนู
4. สำรวจและเฝ้าระวังการแพร่กระจายปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติตามพื้นที่กันชนต่าง ๆ
5. ประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมในการกำจัดปลาหมอคางดำให้กับทุกภาคส่วน
ล่าสุดชาวบ้านได้มีการทดลองนำปลาหมอคางดำมาทำปลาร้า พบว่าปลาร้าที่ทำจากหมอคางดำมีรสชาติอร่อยเหมือนกับปลาทั่ว โดยหวังว่าการแปรรูปเป็นอาหารจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถลดปริมาณปลาหมอคางดำได้ และจะสามารถขจัดปลาหมอคางดำซึ่งเป็นเอเลียนสปีชีส์ให้หมดไปจากน่านน้ำไทย วันนี้เราจึงมาแจกสูตรวิธีทำปลาร้าที่นอกจากจะเป็นการลดจำนวนประชากรไปแล้วยังได้ปลาร้าแซ่บๆ เก็บไว้ทานได้อีกด้วย
วิธีทำปลาร้า
1. นำปลามาตัดหัว ตัดครีบ ขูดเกล็ด เอาเครื่องในออก แล้วล้างน้ำสะอาดให้เรียบร้อย
2. เตรียมครกกับสาก นำเกลือสินเธาว์ ที่มีลักษณะเป็นดอกเกลือ มาตำให้พอแหลก ไม่ต้องตำจนละเอียด
3. นำข้าวเปลือกมาคั่วในกระทะ เสร็จแล้วปั่นให้ละเอียด
4. นำเนื้อปลามาคลุกเคล้ากับเกลือและข้าวคั่ว จนเข้าเนื้อ จากนั้น หมักใส่ไว้ในไห หรือ ขวดโหลพลาสติก ปิดปากให้แน่น หมักทิ้งไว้ 2 อาทิตย์
5. พอครบเวลา ให้นำเนื้อปลาออกมาใหม่ เทน้ำจากเนื้อปลาออกให้หมด แล้วคลุกเคล้ากับเกลือและข้าวคั่วใหม่อีกรอบ จากนั้น หมักใส่ไว้ในไห หรือ ขวดโหลพลาสติก ปิดปากให้แน่น หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 เดือน
เมื่อครบเวลา ปลาร้าที่ดี เนื้อ และลำตัวของปลาจะอ่อนนุ่ม ไม่แข็ง หรือ เปื่อยยุ่ยจนเกินไป เนื้อปลาด้านในเป็นสีชมพูแดง หรือน้ำตาล มีกลิ่นหอมที่เกิดจากการหมัก แต่ไม่ใช่กลิ่นเหม็นเน่า เนื้อปลามีรสเค็ม ไม่ติดเปรี้ยว น้ำปลาร้า เป็นสีน้ำตาลอมดำ รสเค็มไม่ติดเปรี้ยว และสีของข้าวคั่ว หรือ ดำ จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ไม่เป็นสีดำคล้ำ นอกจากนี้ ต้องสังเกตให้ดีว่า ไม่มีไข่ของแมลงวัน หรือ พยาธิ และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ อยู่ในปลาร้า