โดยปกติแล้ว ในขั้นตอนการเรียกเคลมประกัน สิ่งแรกที่คุณควรทำคือการตั้งสติให้ดี แล้วรวมรวบข้อมูลรายละเอียดของอุบัติเหตุ ความเสียหายโดนรวม และสถานที่เกิดเหตุ จากนั้นโทรแจ้งไปยังศูนย์ประกัน โดยการเรียกเคลมนั้นมีด้วยกัน 2 รูปแบบ โดยมีชื่อเรียก ดังนี้
1. แบบเคลมสด
2. แบบเคลมแห้ง
การเคลมแบบสด คือ การเคลม ณ ที่เกิดเหตุ โดยจะมีพนักงานจากบริษัทประกันออกไปตรวจสอบทันที โดยสามารถแยกออกได้เป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
คือ กรณีที่รถชนรถด้วยกันเอง โดยพนักงานจากบริษัทประกันจะพิจารณาว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด โดยฝ่ายที่ผิดอาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ให้กับคู่กรณีก่อน ตามแต่ที่ตกลงไว้กับทางบริษัทประกัน
คือ กรณีที่รถของผู้ถือประกันชนเข้ากับสิ่งของหรือวัตถุจนเกิดความเสียหายมาก เช่น ชนต้นไม้หรือเสาไฟฟ้า โดยกรณีนี้ผู้ถือประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ก่อนเสมอ
1. เตรียมกรมธรรม์เอาไว้ให้พร้อมและโทรแจ้งไปที่ศูนย์ประกันของคุณ แจ้งหมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ ทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และรายละเอียดเหตุการณ์ โดยจะมีตัวแทนจากบริษัทประกันออกมาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์
2. อาจใช้เวลาสักครู่หนึ่งกว่าที่ตัวแทนจากบริษัทประกันจะมาถึง ระหว่างนี้ให้คุณเตรียมเอกสารต่างๆ ไว้สำหรับยื่นเรื่อง คือ บัตรประชาชน ใบขับขี่ กรมธรรม์ และเล่มทะเบียนรถ
3. เมื่อประกันมาถึงแล้วจะทำการประเมินเหตุการณ์ หากเป็นกรณีที่มีคู่กรณีจะต้องตรวจสอบด้วยว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด โดยฝ่ายที่ผิดอาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) เพื่อเยียวยาคู่กรณีก่อน ตามแต่ที่ตกลงไว้กับทางบริษัท
4. หลังจากที่ตรวจสอบเหตุการณ์และประเมินค่าเสียหายเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหายให้ผู้ถือประกันนำรถไปเคลมกับอู่ซ่อมรถในเครือบริษัทได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม
การเคลมแบบแห้ง คือ การเคลมหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไประยะหนึ่งแล้ว (ไม่ควรเกิน 2-3 วัน) มักจะเคลมจากกรณีที่รถยนต์เกิดการเฉี่ยวหรือชนที่ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย โดยผู้ถือประกันจะต้องเป็นฝ่ายบันทึกเหตุการณ์อย่างชัดเจนว่า ชนเข้ากับอะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน แล้วแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันด้วยตนเอง
โดยการเคลมแห้งจะมีกรณีพิเศษคือการ เคลมรอบคัน ซึ่งจะทำการเก็บรายละเอียดรอยต่างๆ รอบทั้งคันให้กับรถของคุณ แต่ความคุ้มครองนี้จะมีเฉพาะประกันชั้น 1 เท่านั้น
1. เตรียมกรมธรรม์เอาไว้ให้พร้อมและโทรแจ้งไปที่ศูนย์ประกันของคุณ แจ้งหมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ ทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และรายละเอียดเหตุการณ์ โดยจะมีตัวแทนจากบริษัทประกันออกมาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์
2. อาจใช้เวลาสักครู่หนึ่งกว่าที่ตัวแทนจากบริษัทประกันจะมาถึง ระหว่างนี้ให้คุณเตรียมเอกสารต่างๆ ไว้สำหรับยื่นเรื่อง คือ บัตรประชาชน ใบขับขี่ กรมธรรม์ และเล่มทะเบียนรถ
3. เมื่อประกันมาถึงแล้วจะทำการประเมินเหตุการณ์ หากเป็นกรณีที่มีคู่กรณีจะต้องตรวจสอบด้วยว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด โดยฝ่ายที่ผิดอาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) เพื่อเยียวยาคู่กรณีก่อน ตามแต่ที่ตกลงไว้กับทางบริษัท
4. หลังจากที่ตรวจสอบเหตุการณ์และประเมินค่าเสียหายเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหายให้ผู้ถือประกันนำรถไปเคลมกับอู่ซ่อมรถในเครือบริษัทได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม